เตรียมความพร้อมกว่าจะมาเป็นกราฟฟิกดีไซน์


งานกราฟฟิกดีไซน์ที่ทำด้วยการวาด พิมพ์ ภาพถ่าย หรือภาพจากคอมพิวเตอร์ แต่สิ่งเหล่านั้นจะพบในรูปแบบของตัวอักษร ที่ถูกสร้างขึ้นมาแบบหลากหลาย มักจะพบในเครดิตหนัง และ โฆษณาในทีวี ในหนังสือ แมกกาซีน และ เมนู และบนหน้าจอคอมพิวเตอร์นักออกแบบจะสร้าง เลือก และนำองค์ประกอบเหล่านั้นมารวมกัน ข้อความ รูปภาพแล้วสิ่งที่อยู่รอบ ๆ สิ่งเหล่านั้นถูกเรียกว่า พื้นที่ว่างสีขาว กราฟฟิกดีไซน์คือส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันจากสิ่งที่ง่าย ๆ อย่างกล่องใส่หมากฝรั่งจนไปถึงลายสกรีนบนเสื้อเชิ้ตที่คุณสวมใส่เป็นกราฟฟิก ดีไซน์อย่างที่ไม่เป็นทางการ การชักชวน การกระตุ้น เอกลักษณ์ การดึงดูดความสนใจ หรือการสรรหาความพึงพอใจ กราฟฟิกดีไซน์คือกระบวนการความคิดสร้างสรรค์ที่รวมเข้ากับงานศิลปะและ เทคโนโลยีสู่สื่อความคิดสร้างสรรค์นักออกแบบที่ทำงานกับเครื่องมือสื่อสาร ที่หลากหลายจากสั่งที่จะถ่ายทอดข้อความจากลูกค้าถึงผู้ชมสื่งที่เป็นหลัก สำคัญคือรูปและข้อความ

งานในสายนี้เป็นคล้ายคล้ายกับงานวาดภาพในกระดาษ แต่มันเป็นงานวาดภาพบนคอมพิวเตอร์นั้นเอง ไม่ว่าจะเป็นงานการ์ตูน2มิติ งานโฆษณา งานเว็บไซต์งานประเภทนี้ ต้องผ่านมือของ Graphic Designer ทั้งนั้น ดูแล้วเหมือนกับไม่ยากอะไรเลยใช่ไหม สำหรับงาน Graphic Designer โดยหน้าที่ของตำแหน่งงานนี้นั้นมีการรับงาน 2 แบบ ด้วยกัน โดยมีทั้ง Graphic Designer
-ที่ต้องออกแบบงานเอง
-มีแผนกที่ทำการออกแบบมาให้ครับน้องน้อง

โดยการทำภาพกราฟฟิกนั้นอาจจะมีทั้งงานการ์ตูน งานภาพเหมือน คละเคล้ากันไปตามงานของบริษัทนั้นนั้นแต่เขาเรียกว่า Graphic Designer
สิ่งที่ต้องเตรียมพร้อม
-เรียนคณะที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบบนคอมพิวเตอร์ ศิลปกรรม มัลติมีเดีย และที่เกี่ยวข้องโดยมีทั้งมหาวิทยาลัยรัฐอและเอกชนสอนกันอย่างกว้างขวาง
-เรียนด้วยต้นเอง โดยการซื้อหนังสือมาอ่านเอง หมั่นดูงานไทยและต่างประเทศ หมั่นโชว์งานของตนเอง
-โปรแกรมหลักๆ ที่ใช้ในบริษัทก็คือ Adobe Photoshop และ Adobe illustrator

Tips : งานประเภทนี้เน้นการเรียนรู้ด้วยตัวเองมากที่สุด การเรียนตามแบบเรียนนั้นไม่ทำให้เราเก่งได้ครับ เพราะเทคนิคนั้นสอนกันไม่ได้ต้องลองทำดูเอง ไม่ว่าจะเรียนรัฐหรือเอกชนต้องหมั่นมาโชว์มาศึกษานอกรอบกันเยอะ

รูปแบบของงาน
งานโฆษณาที่เน้นการตกแต่งด้วยคอมพิวเตอร์ อาจจะมีส่วนประกอบของภาพจริงบ้างแต่สีสันบางอย่างต้องผ่านมือพวกเขาก่อนจะสวยงามถึงที่สุด ไม่ว่าจะหน้าปกนิยาย งานการ์ตูน ภาพโปสเตอร์การ์ตูน หรืองานทุกอย่างที่มีส่วนประกอบของการ์ตูน ทั้งการ์ตูนเคลื่อนไหวทั้งการ์ตูนภาพนิ่งนั้นเอง

ความยากของตำแหน่งงาน
ตำแหน่ง Graphic Designer มีการแข่งขันที่สูงพอสมควรเลยทีเดียวทั้งนี้เพราะมีหลายคนสนใจในงานด้านนี้ แถมยังมีกลุ่มที่ไม่ได้เรียนแต่ใจรักอีกด้วย ถ้ารักในงานนี้จริงต้องหมั่นฝึกฝนฝีมือให้เก่ง รับรองว่าไม่ยากเกินเอื้อมแน่นอน

กราฟฟิก ดีไซน์เนอร์ต้องอาศัยพรสวรรค์หรือพรแสวง???

อาชีพดีไซเนอร์คงจะเป็นอีกอาชีพหนึ่งที่ใครๆ หลายคนอยากจะเป็น เพราะเป็นอาชีพ ที่ฟังดูดีมีระดับกับเขาเหมือนกัน เพราะถ้าฝีมือเข้าขั้น ก็อาจจะเด่นจะดัง ยิ่งได้ออกแบบให้คนดัง มีชื่อเสียง ก็ยิ่งทำให้เราเป็นที่รู้จัก และได้เชิดหน้าชูตา กันได้พอตัวที่เดียวล่ะค่ะ การจะทำงานในอาชีพนี้เป็นศิลปะแบบหนึ่งที่ไม่ใช่ใคร จะมาทำกันง่ายๆ แต่ต้องมีใจรัก และมีพรสวรรค์ด้านนี้มาบ้างพอสมควร และที่ขาดไม่ได้เด็ดขาดของการเป็นดีไซเนอร์ที่ดี นั่นคือทุกคนต้องมีพรแสวง ที่จะสรรหาความรู้เพิ่มเติมที่ทันสมัย นำสมัย ตามแนวแฟชั่นให้ทันเสมอ และมีความคิดสร้างสรรค์และมีไอเดียที่แปลกใหม่เสมอ ในยุคสมัยนี้ เทคโนโลยีก้าวหน้าขึ้น จนทำให้ดีไซเนอร์ในสมัยนี้ อาจไม่จำเป็นต้องมีความสามารถในการเสก็ตภาพ ก็ยังได้ เพราะมีการใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิคเข้ามาช่วย เป็นทางเลือกใหม่ที่ทำให้การทำงานออกแบบเป็นเรื่องง่ายๆไปเลยทีเดียวค่ะ สิ่งที่กราฟฟิกดีไซน์เนอร์ต้องมี

1. ความชำนาญ คือความชำนาญในการใช้โปรแกรมกราฟฟิกต่าง ๆ อาจจะไม่ต้องชำนาญหลาย ๆ โปรแกรม แต่ขอให้รู้จริงเพียงโปรแกรมเดียวก็เหลือเฟือแล้ว ความชำนาญ สามารถหาได้จากหลายทาง แต่ที่แน่ ๆ ก็คือ การฝึกฝน ลำพัง การอ่าน หรือ การหาความรู้แต่เพียงอย่างเดียว ไม่สามารถที่จะทำให้คนเก่งกล้าสามารถได้ แต่ต้องอาศัยการฝึกหัดบ่อย ๆ จนเกิดความชำนาญ รู้จริง รู้ลึก ในสิ่งนั้น

2. ความรู้ในศิลปะ ในเมื่องานกราฟฟิกดีไซน์ ก็คืองานศิลปะแขนงหนึ่ง ความรู้ทางศิลปะจึงขาดเสียมิได้เลย ความรู้ทางศิลปะพื้นฐานก็ได้แก่ ทฤษฎีสี , การจัดองค์ประกอบ ,ลายเส้น , ลายไทย ,ลวดลายสากล , นอกจากนี้ ก็ควรจะมีความรู้ในการชมงานศิลปะอยู่ด้วย , ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ศิลป์ , การแบ่งประเภทงานศิลป์

3. ความคิดสร้างสรรค์ ความคิดสร้างสรรค์เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในการสร้างงานศิลปะ การพัฒนาเทคนิคต่าง ๆ ก็ถือเป็นความคิดสร้างสรรค์เหมือนกัน เราต้องพยายามสร้างงานที่แตกต่างออกมา ไม่ว่าจะเป็นในด้านเทคนิค หรือ ด้านการสื่อสารจากภาพสู่ผู้เสพ

4. ความรู้ทางด้านอุปกรณ์เอาท์พุต ทำไมคนที่ทำงานทางด้านกราฟฟิกจึงต้องมีความรู้ทางด้านนี้ เพราะอุปกรณ์เอาท์พุต คือสิ่งสำคัญที่จะแสดงคุณภาพงานของเรา จำไว้เสมอว่า เราทำภาพในเครื่องเราว่าสวยแล้ว แต่ไปดูอีกเครื่องหนึ่ง ภาพของคุณสีจะเพี้ยนไปเลย ยิ่งถ้าคุณทำงานในด้านสื่อสิงพิมพ์ คุณยิ่งต้องระวัง ต้องมีการเซ็ทค่าเอาท์พุต ให้สามารถแสดงสีออกมาได้ถูกต้อง อุปกรณ์อินพุตก็เหมือนกัน แต่อาจจะสำคัญน้อยกว่า สิ่งสำคัญของอุปกรณ์อินพุตก็คือ ต้องนำเข้าภาพที่มีคุณภาพ มีความละเอียดสูง ส่วนเรื่องสี และแสงสามารถมาปรับแต่งกันได้ทีหลัง

สำหรับคนที่ทำงานทางด้านเว็บ คุณอาจจะไม่ต้องระวังเรื่องสีมากนัก สิ่งที่ต้องพึงระวังก็คือ เรื่องของ Browser Browser ต่างค่าย จะแสดงผลที่แตกต่างกัน , Resolution ของหน้าจอ สำหรับคนที่ทำงานทางด้าน Multimedia Presentation คุณต้องคำนึงถึงคุณภาพของโปรเจ็คเตอร์ ว่าแสดงสีเป็นอย่างไร ต้องมีการทดลองกับโปรเจ็คเตอร์จริง ๆ ก่อน หรือแม้แต่การเอาท์พุต ออกทางทีวีก็ตาม สีที่มองเห็นที่หน้าจอโทรทัศน์ ย่อมแตกต่าง จากสีในจอมอนิเตอร์ของคุณแน่นอน

5. ความสนใจในเหตุการณ์รอบตัวต่าง ๆ ข้อนี้อาจจะไม่จำเป็นนัก แต่ก็มีส่วนสำคัญในการสร้างความแตกต่าง และการเสริมลูกเล่นในงานของคุณ โดยคุณอาจจะนำเรื่องราวที่เกิดขึ้นในสังคมขณะนั้นมาใส่ในงานของคุณ เพื่อให้งานน่าสนใจ แต่งานนั้นจะมีความโดดเด่นในช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น

6. เปิดหูเปิดตา คือการออกไปหาแรงบันดาลใจภายนอก อย่านั่งอยู่แต่ในบ้าน ออกไปภายนอกท่องเที่ยวเสียบ้าง หรือ ดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ สวดมนต์ หรือ ทำอย่างอื่นนอกจากนั่งออกแบบอยู่กับบ้านบ้าง เพื่อให้สมองไม่ตัน จะได้มีไอเดียใหม่ตลอดเวลา

อาชีพการฟฟิกดีไซเนอร์เป็นอาชีพที่กำลังได้รับความสนใจและเป็นที่ต้องการทางการตลาด


ในยุคสมัยที่สื่อมีบทบาทในชีวิตประจำวัน อาชีพการฟฟิกดีไซเนอร์เป็นอาชีพที่กำลังได้รับความสนใจและเป็นที่ต้องการแต่ยังขาดบุคลากรที่มีความรู้ความสามรถและเข้าใจขบวนการทำงานอย่างจริงจัง โปรแกรมพื้นฐานที่กราฟฟิกดีไซเนอร์ ต้องรู้จักและทำให้เป็น คือ Photoshop Illustrator และIndesign ของค่าย Adobe เป็นโปรแกรมจักการด้านกราฟฟิกยอดนิยมที่เป็นที่รู้จักแพร่หลายในปัจจุบัน ด้วยประสิทธิภาพความสามรถของตัวโปรแกรมที่มีจุดเด่นในการทำงาน ที่ง่ายและสะดวกเหมาะสมกับการนำไปใช้งานและยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้งานร่วมกับโปรแกรมอื่นๆ ได้อย่างแพร่หลาย จึงได้รับความนิยมเพื่อนำไปใช้ในการทำสื่อประชาสัมพันธ์สื่อต่างๆ มากมาย ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ เช่น แผ่นพับประชาสัมพันธ์ หนังสือ LOGO วาดการ์ตูน ฯลฯ และสื่อมันติมีเดียอย่างเว็ปไซดต่างๆ ขององค์กร

องค์ประกอบจะถูกจัดให้เป็นหมวดใหญ่ๆอยู่ 5 หมวดด้วยกันคือ
– รูปร่าง เป็นความสำคัญอันดับหนึ่ง ถ้าพูดถึงการออกแบบเว็บไซต์ก็คือ “คุณจะทำอย่างไรให้เว็บไซต์ของคุณดูมีความเป็นเอกลักษณ์ตรงกันมากที่สุด” เช่น ถ้าคุณออกแบบเว็บไซท์เกี่ยวกับเกมส์ คุณจะต้องออกแบบรูปร่างเว็บไซท์ให้เข้ากับเกมส์มากที่สุด
– สีสัน เป็นความสำคัญรองลงมา สีให้อารมณ์ที่หลากหลาย ดังนั้นจึงต้องเข้ากับสิ่งที่คุณได้ออกแบบไว้ให้ดี ถ้าเกิดสีไม่สัมพันธ์กันกับรูปร่าง มันก็จะออกมาเป็นผลงานที่ไม่มีคุณภาพ เช่น ถ้าพูดถึงทองแดง ก็จะต้องทำสีให้เป็น “น้ำตาลแดงเหลือบทอง” แต่ถ้าคุณทำสีอื่นเช่น “น้ำเงินเข้มเหลือบเงิน”
– ขนาด เป็นความสำคัญอันดับสามที่ต้องควบคุมร่วมกับองค์ประกอบ มีความจำเป็นเรื่องการออกแบบด้านสัดส่วนของสิ่งนั้น ถ้าพูดถึงเว็บไซท์ก็จะเป็นด้านความยาว ความกว้าง การเรียงสัดส่วนรูปภาพ เป็นต้น
– องค์ประกอบ เป็นความสำคัญลำดับสุดท้ายแต่ยังไม่ท้ายสุด ถ้าคุณจะทำงานใดงานหนึ่ง คุณต้องจัดลำดับองค์ประกอบให้เข้ากันอย่างลงตัวก่อน นักดีไซน์เนอร์เก่งๆมักจะจัดองค์ประกอบก่อนการเริ่มงานเสมอ เช่น บางคนเปิดโปรแกรม MS – Paint แล้วเริ่มบรรจงวาดรูปลงไปอย่างเละๆ แล้วค่อยเริ่มจัดรูปเละๆนั่นให้เป็นรูปร่างเว็บไซต์ โดยอาศัยหลักการจัดองค์ประกอบอย่างละเอียด จนเริ่มสร้างเว็บไซท์ตามที่วาดรูปลงในโปรแกรมนั้น จนสุดท้ายก็ออกมาอย่างสวยงาม
– ความหลากหลาย เป็นสิ่งที่นักดีไซน์เนอร์บางคนขาดไป เพราะนักดีไซน์เนอร์ส่วนใหญ่มักจะติดกับการออกแบบโดยใช้ความถนัดด้านรูปร่างที่เคยออกแบบมาสร้างสรรค์ผลงานใหม่ แต่แค่เปลี่ยนองค์ประกอบให้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ยกตัวอย่างเช่นเว็บไซท์หลายเว็บไซท์ที่มีเมนูแบบ Sidebars (เมนูที่ติดอยู่ข้างๆเว็บ) ซึ่งทำให้กินเนื้อที่ในการออกแบบด้านขนาด (หมายถึงถ้าเมนูมี Button เยอะๆ หรือมี Ads เยอะๆ ก็จะทำหน้าหน้าเว็บไซท์ยาวขึ้น) แต่บางเว็บไซท์แก้ปัญหานี้โดยใส่ JavaScript ให้ย่อเมนูเก็บลงไปได้ หรือสร้างเมนูย่อยลงไปอีกเพื่อเก็บ Button อื่นๆไว้ เป็นต้นฯ

การพัฒนาการบริการของคอมพิวเตอร์กราฟิกให้งานของลูกค้า

จากอดีตสู่ปัจจุบัน คอมพิวเตอร์กราฟิกได้ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งทางด้านการสร้างสรรค์และการออกแบบด้วยซอฟต์แวร์ต่างๆ พร้อมกับมีการแสดงผลที่ตอบสนองต่อผู้ใช้เป็นอย่างดี ซึ่งสามารถแยกประวัติความเป็นมาได้ดังนี้ การปฎิวัติคอมพิวเตอร์กราฟิก เป็นการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีซึ่งเปลี่ยนแปลงความเป็นอยู่ของมนุษย์โดยสิ้นเชิง เกิดจากการปฏิวัติที่สำคัญของโลก ได้แก่ การปฏิวัติเกษตรกรรม การปฏิวัติอุตสาหกรรม การปฏิวัติคอมพิวเตอร์ โดยมีการพัฒนาอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้มนุษย์มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีการใช้เครื่องจักรแทนพลังงานคนและสัตว์ จนมีการพัฒนาหลอดสุญญากาศ ทรานซิสเตอร์ แผนวงจรรวม และตัวซิลิกอนชิป ตามลำดับ มาใช้แทนกำลังสมองของมนุษย์

การวิจัยพัฒนาคอมพิวเตอร์กราฟิก เริ่มมีการพัฒนาระบบต่างๆ ของคอมพิวเตอร์ช่วยในการตรวจจับและเตือนภัยทางอากาศ ที่เด่นคือ ระบบแซจ เนื่องจากข้อมูลที่แซจรายงานผ่านจอภาพช่วยให้เกิดปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และคอมพิวเตอร์ครั้งแรก จนกลายเป็นพื้นฐานของการพัฒนาระบบประสานกับผู้ใช้กราฟิกหรือกุย ทำให้คอมพิวเตอร์ช่วยการออกแบบ ได้ถูกพัฒนาขึ้นใช้สำหรับการผลิตและออกแบบในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง การประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์กราฟิก ได้พัฒนาคอมพิวเตอร์เป็น จอภาพสวมศีรษะ ที่ผู้ใช้สามารถรับข้อมูลได้เสมือนจริงที่สุด มีการสร้างภาพแสดงผลสีเอกรงค์ซึ่งแสดงผลความแตกต่างของเฉดสี ต่อมามีการนำเสนอเทคนิคพิเศษของแสงในธรรมชาติมาใช้กับการสร้างภาพกราฟิกสามมิติที่สมจริง และได้มีการนำมาใช้ในการสร้างภาพยนตร์คอมพิวเตอร์กราฟิกกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งมีการนำเทคนิคพิเศษมาช่วยให้เกิดการตอบสนองและความตื่นตาตื่นใจต่อผู้ชมอนาคตคอมพิวเตอร์กราฟิก เป็นการพัฒนาโดยภาพรวมของการนำไปใช้ประโยชน์กับผู้ใช้ โดยมีการนำคอมพิวเตอร์กราฟิกไปทำงานได้ 2 ระบบ คือ ระบบสื่อประสม การนำสื่อหลายอย่างๆ มาเชื่อมโยงต่อกันในการใช้งาน ซึ่งมีหัวใจหลักคือ การแปลงข้อมูลแอนะล็อกเป็นดิจิทัล คือทั้งภาพและเสียงเป็นดิจิทัล ต่อมามีการพัฒนาสื่อต่างๆให้มีการทำงานเร็วขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการพื้นฐานในอนาคตและระบบความเป็นจริงเสมือน การใช้คอมพิวเตอร์สร้างสิ่งแวดล้อมใหม่เพื่อให้ผู้ใช้มีความรู้สึกเหมือนเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริง